เหลือเพียงไม่กี่วันเท่านั้นการแข่งขันฟุตบอล ยูโร 2024 ก็จะเริ่มขึ้นแล้ว โดยจะเป็นการแข่งขันครั้งที่ 17 และประเทศเยอรมันเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ซึ่งการแข่งขันในรอบ 24 สุดท้ายนี้จะเริ่มขึ้นในวันที่ 15 มิถุนายน – 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 และสำหรับผู้ที่ยังสงสัยว่าฟุตบอลยูโรนั้นคืออะไร มีประวัติความเป็นมาอย่างไร วันนี้เรามีคำตอบ
การแข่งขันฟุตบอลยูโรคืออะไร
การแข่งขันฟุตบอลยูโร หรือการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป (European Football Championship) โดยจะเป็นการแข่งขันฟุตบอลทีมชาติในทวีปยุโรปนั่นเอง ซึ่งจะจัดขึ้นในทุกๆ 4 ปี และจะเว้นระยะห่างจากการแข่งขันฟุตบอลโลกอยู่ 2 ปี มีผู้ติดตามรอชมการแข่งขันเป็นจำนวนมาก ได้รับความนิยมตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
ประวัติความเป็นมาของฟุตบอลยูโร
ฟุตบอลยูโรครั้งที่ 1 โดยประเทศฝรั่งเศษเป็นเจ้าภาพ ได้เริ่มการแข่งขันขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ 1960 โดยใช้ชื่อการแข่งขันว่ายูโรเปียนเนชันส์คัพ (European Nations Cup) จากแนวคิดของ อ็องรี เดอโลแน ซึ่งเป็นเลขาธิการสหพันธ์ฟุตบอลฝรั่งเศษในขณะนั้น จนปัจจุบันได้เดินทางมาถึงครั้งที่ 17 แล้ว ประวัติการแข่งขันฟุตบอลยูโรนี้จะแบ่งออกเป็น 4 ยุคด้วยกัน และแต่ละยุคจะมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
- ยุค 4 ทีม
- ยุค 8 ทีม
- ยุค 16 ทีม
- ยุค 24 ทีม
ยุค 4 ทีม
ในยุคแรกตั้งแต่การแข่งขันครั้งที่ 1 ในปี ค.ศ. 1960 ถึงครั้งที่ 5 ในปี ค.ศ. 1976 จะมีทีมชาติเข้าร่วมการแข่งขันในรอบสุดท้ายเพียง 4 ประเทศเท่านั้น โดยจะเป็นการแข่งขันในรูปแบบเหย้า-เยือน ก่อนที่จะเข้าไปเล่นแบบน็อกเอาต์ในรอบรองชนะเลิศ
ยุค 8 ทีม
ยุคที่ 2 การแข่งขันตั้งแต่ครั้งที่ 6 ในปี ค.ศ. 1980 ถึงครั้งที่ 9 ในปี ค.ศ. 1992 ได้เพิ่มทีมชาติเข้าร่วมการแข่งขันในรอบสุดท้ายเป็น 8 ประเทศ โดยจะเป็นการแข่งขันในรูปแบบเหย้า-เยือน ก่อนที่จะเข้าไปเล่นแบบน็อกเอาต์ในรอบรองชนะเลิศเหมือนเดิม
ยุค 16 ทีม
ยุคที่ 3 ในการแข่งขันตั้งแต่ครั้งที่ 10 ในปี ค.ศ. 1996 ถึงครั้งที่ 14 ในปี ค.ศ. 2012 ได้เพิ่มทีมชาติเข้าร่วมการแข่งขันในรอบสุดท้ายเป็น 16 ประเทศ โดยจะแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม และสองอันดับแรกของแต่ละกลุ่ม จะได้เข้ามาเล่นในรอบ 8 ทีมสุดท้าย และในยุคนี้จะเพิ่มกฎโกลเด้นโกล์มาใช้ครั้งแรกอีกด้วย
ยุค 24 ทีม
ยุคปัจจุบันในการแข่งขันตั้งแต่ครั้งที่ 15 ในปี ค.ศ. 2016 จนถึงทุกวันนี้ ได้เพิ่มทีมชาติเข้าร่วมการแข่งขันในรอบสุดท้ายเป็น 24 ประเทศ โดยจะแบ่งออกเป็น 6 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม ซึ่งจะเป็นการแข่งขันแบบพบกันหมด เอาลำดับที่ดีที่สุด 16 ทีมมาแข่งขันกันในรอบน็อกเอาต์นั่นเอง
ทําเนียบแชมป์ยูโร
สำหรับการแข่งขันขันฟุตบอลยูโร ทั้ง 16 ครั้งที่ผ่านมา จะมีทีมชาติใดได้แชมป์กันมาแล้วบ้าง และเข้าชิงชนะเลิศกับทีมชาติใด มีรายละเอียดในการแข่งขันดังต่อไปนี้
ครั้งที่ | เจ้าภาพ | ชนะเลิศ | ผลการแข่งขัน | รองชนะเลิศ |
ครั้งที่ 1 ปี ค.ศ. 1960 (พ.ศ. 2503) | ฝรั่งเศส | สหภาพโซเวียด | 2 – 1 (ต่อเวลา) | ยูโกสลาเวีย |
ครั้งที่ 2 ปี ค.ศ. 1964 (พ.ศ. 2507) | สเปน | สเปน | 2 – 1 (ในเวลา) | สหภาพโซเวียด |
ครั้งที่ 3 ปี ค.ศ. 1968 (พ.ศ. 2511) | อิตาลี | อิตาลี | 3 – 1 (ต่อเวลา) | ยูโกสลาเวีย |
ครั้งที่ 4 ปี ค.ศ. 1972 (พ.ศ. 2515) | เบลเยียม | เยอรมนี | 3 – 0 (ในเวลา) | สหภาพโซเวียด |
ครั้งที่ 5 ปี ค.ศ. 1976 (พ.ศ. 2519) | ยูโกสลาเวีย | สโลวาเกีย | 2 – 2 (5 – 3) (ดวลลูกโทษ) | เยอรมนี |
ครั้งที่ 6 ปี ค.ศ. 1980 (พ.ศ. 2523) | อิตาลี | เยอรมนี | 2 – 1 (ในเวลา) | เบลเยียม |
ครั้งที่ 7 ปี ค.ศ. 1984 (พ.ศ. 2527) | ฝรั่งเศส | ฝรั่งเศส | 2 – 0 (ในเวลา) | สเปน |
ครั้งที่ 8 ปี ค.ศ. 1988 (พ.ศ. 2531) | เยอรมนี | เนเธอร์แลนด์ | 2 – 0 (ในเวลา) | สหภาพโซเวียด |
ครั้งที่ 9 ปี ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535) | สวีเดน | เดนมาร์ก | 2 – 0 (ในเวลา) | เยอรมนี |
ครั้งที่ 10 ปี ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539) | อังกฤษ | เยอรมนี | 2 – 1 (โกลเดนโกล) | เซ็กเกีย |
ครั้งที่ 11 ปี ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) | เบลเยียม เนเธอร์แลนด์ | ฝรั่งเศส | 2 – 1 (โกลเดนโกล) | อิตาลี |
ครั้งที่ 12 ปี ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547) | โปรตุเกส | กรีช | 1 – 0 (ในเวลา) | โปรตุเกส |
ครั้งที่ 13 ปี ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551) | ออสเตเรีย สวิตเซอร์แลนด์ | สเปน | 1 – 0 (ในเวลา) | เยอรมนี |
ครั้งที่ 14 ปี ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555) | โปแลนด์ ยูเครน | สเปน | 4 – 0 (ในเวลา) | อิตาลี |
ครั้งที่ 15 ปี ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559) | ฝรั่งเศส | โปรตุเกส | 1 – 0 (ต่อเวลา) | ฝรั่งเศส |
ครั้งที่ 16 ปี ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2564) | อังกฤษ | อิตาลี | 1 – 1 (3 – 2) (ดวลลูกโทษ) | อังกฤษ |
เจ้าภาพการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2024
ประเทศเยอรมันได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2024 ซึ่งเป็นการแข่งขันครั้งที่ 17 โดยการตัดสินใจนี้เกิดขึ้นจากการประชุมของคณะผู้บริหารยูฟ่า ที่เมืองนียง ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2018 โดยประเทศตุรกีเป็นประเทศเดียวที่ยื่นเสนอตัวแข่งกับประเทศเยอรมัน และสุดท้ายเป็นประเทศเยอรมันที่ได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพ แม้ประเทศเยอรมันตะวันตกเคยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันในปี ค.ศ. 1988 แต่ครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกที่เยอรมันที่รวมประเทศแล้วเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลยูโร และเยอรมันยังเคยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัยฟุตบอลโลกในปี ค.ศ. 2006 มาแล้วอีกด้วย
ประเทศที่ผ่านเข้ารอบ 24 ทีมสุดท้าย
และในตอนนี้ได้ประกาศรายชื่อประเทศที่ผ่านเข้ารอบ 24 ทีมสุดท้ายในศึกฟุตบอลยูโร 2024 และทำการแบ่งกลุ่มเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จะมีทีมใดบ้างไปชมกันเลย
กลุ่ม A | กลุ่ม B | กลุ่ม C | กลุ่ม D | กลุ่ม E | กลุ่ม F |
เยอรมนี | สเปน | สโลวีเนีย | โปรแลนด์ | เบลเยียม | ตุรกี |
สกอตแลนด์ | โครเอเชีย | เดนมาร์ก | เนเธอร์แลนด์ | สโลวะเกีย | จอร์เจีย |
ฮังการี | อิตาลี | เซอร์เบีย | ออสเตเรีย | โรมาเนีย | โปรตุเกส |
สวิตเซอร์แลนด์ | แอลเบเนีย | อังกฤษ | ฝรั่งเศส | ยูเครน | เซ็กเกีย |
รูปแบบการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2024 ในรอบ 24 ทีม
สำหรับรูปแบบการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2024 ในรอบ 24 ทีม ก็จะเหมือนกันกับ ฟุตบอลยูโร 2020 ทุกอย่าง โดยจะแบ่งออกเป็น 6 กลุ่มด้วยกัน ทีมที่จบอันดับที่ 1 และ 2 ของแต่ละกลุ่ม และอันดับที่ 3 ของแต่ละกลุ่มที่ทำคะแนนได้สูงที่สุด 4 ทีม จะผ่านเข้ารอบไปแข่งขันกันต่อในรอบ 16 ทีมนั่นเอง
และทั้งหมดนี้ก็คือรายละเอียดต่างๆของการแข่งขันฟุตบอลยูโร สำหรับผู้ที่กำลังรอชมการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2024 ครั้งที่ 17 นี้ และสนใจลงเดิมพันอยู่ห้ามพลาด เพราะเว็บพนัน W88 ได้เปิดให้บริการทุกแมตช์ของการแข่งขัน สามารถสมัครสมาชิกเข้ามาเล่นพนันกันได้เลย เปิดให้บริการตลอด 24 ชม.